คือรัก
The Concealedly Love of the World
ณ หมู่บ้านชนบทอันห่างไกล / 2015
ภายในบ้านหลังหนึ่ง เพียวได้เฝ้าไข้จูนที่กำลังป่วยหนักด้วยโรคที่แพทย์ยังไม่ทราบสาเหตุมาเป็นเวลา 2 สัปดาห์เต็ม นาน ๆ ทีเธอถึงจะรู้สึกตัว
ขณะเดียวกัน ญามี (หญิงลึกลับ) ก็เดินทางมาถึงหมู่บ้านนี้พอดี เธอเฝ้าตามหาชายหนุ่มที่จะมาช่วยโลกให้กลับเป็นดังเดิมตามคำพยากรณ์อยู่นาน ว่าแล้วเธอจึงมอบเครื่องย้อนเวลาให้ (อธิบายให้ชายหนุ่มฟังคร่าวๆ..เมื่อย้อนไปแล้วไม่สามารถกลับมาได้อีก) เขารับมางงๆในหัวเต็มไปด้วยคำถามและความสงสัยมากมาย ญามีบอกกับชายหนุ่มก่อนจะออกเดินทางว่า เตรียมใจไว้ให้ดี เธอจะพบความจริงอันน่าตื่นตะลึง
ตัดมาที่เมืองหนึ่ง / 2010
หลายปีก่อนตอนที่จูนยังเป็นวัยรุ่นช่วงต้น เพียวหาทางให้จูนได้พบกับเขา เมื่อเธอพบชายหนุ่ม อาการรักแรกพบก็เกิดขึ้น / เหตุการณ์ที่ดำเนินคู่กันไปคือหญิงลึกลับ (ญามี) ผู้มีดวงตาพยากรณ์อ่านเจอในตำราโบราณว่าจะมีอสุรกายเกิดขึ้นและนำซึ่งถึงกาลอวสานโลก เธอจึงออกตามหาหญิงสาวผมยาวตามคำพยากรณ์
2012
วันหนึ่งจูนนัดกับเพื่อนๆไปถ่ายรูปที่สวนสาธารณะ ขณะที่จูนกำลังถ่ายรูปอยู่นั้นเอง (เพื่อนอยู่ไกลออกไป) มีแมลงยักษ์ตัวหนึ่งโผล่มากัด ทำให้เกิดความผิดปกติในร่างกายขึ้น คือทุกครั้งที่โมโหเธอจะกลายพันธุ์เป็นอสุรกายทันที
เมื่อมีคนเผลอเห็นจูนในร่างอสุรกายบ่อยขึ้นก็กลายเป็นข่าว มีนักวิทยาศาสตร์ดัง ๆ ออกมาวิเคราะห์ถึงสาเหตุและออกประกาศเตือน ถ้าใครโดนกัดก็จะติดเชื้อเป็นอสุรกายไปด้วย มีนักล่าอสุรกายเกิดขึ้นด้วยความสมัครใจเพื่อสร้างความสงบสุขให้แก่โลก โดยนักล่าคนหนึ่งที่ชื่อว่าแซม ตัดสินใจเข้าร่วมทีมเพราะต้องการแก้แค้นให้กับภรรยาที่ถูกจูนกัดจนติดเชื้อ แต่ในเวลาต่อมาภรรยาของเขาก็จากโลกนี้ไปด้วยน้ำมือของเขาเอง
ประชาชนจำนวนมากที่ได้รับเชื้อจากการโดนอสุรกายกัดก็เริ่มออกอาละวาดถี่ขึ้น แต่ทว่าพวกมันจะตายได้ก็ต่อเมื่อถูกฆ่าด้วยปืนพิเศษของเพียว นักประดิษฐ์ ผู้คิดค้นมันขึ้นมาก่อนจะแจกจ่ายไปให้กับรัฐบาลและตกถึงมือของกลุ่มนักล่า
ไม่นานเพียวก็รู้ความจริงว่าจูนคืออสุรกาย
ญามีได้มาพบกับเพียว ทันทีที่เห็นเขา เธอก็เกิดญาณรับรู้ว่าเธอเองเป็นคนส่งชายหนุ่มมาจากอนาคต ญามีเล่าให้ฟังว่า.. เหตุการณ์นี้เป็นไปตามคำทำนายที่จะเกิดขึ้นทุก 2,000 ปี ตอนนี้ไม่มีทางที่จูนจะหายเป็นปกติหรือกลับคืนสู่ร่างหญิงสาวตลอดไปได้ เพียงแต่หากพบคนรักที่ทำให้เธอมีความสุขอาการก็จะทุเลาลง ทว่าเมื่อไหร่ที่เธอโกรธก็จะกลายเป็นอสุรกายทันที มีทางเดียวที่จะยุติเรื่องราวนี้ได้คือต้องฆ่าเธอเท่านั้น เพราะถ้าขืนปล่อยไว้นั่นอาจหมายถึงวันอวสานของโลกเมื่อเหล่าอสุรกายเริ่มแพร่เชื้อไปทั่วโลกอะไรก็หยุดยั้งมันไม่ได้ โชคดีว่าในระหว่างที่จูนหนีไปยังเกาะอันห่างไกล (เหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น) เธอได้พบกับเพียวพอดี จูนจึงเผยตัวตนที่แท้จริงออกมาไม่บ่อยนัก แต่ก็มีหลายครั้งที่เธอโมโหจนกลายพันธุ์แต่แอบไม่ให้ชายหนุ่มรู้ เหตุนี้จึงเป็นที่มาของอาการป่วย (สภาวะการต่อต้านภายในจิตใจของจูน) แล้วญามียังบอกอีกว่า ถ้าเพียวเกิดไม่ได้ย้อนเวลามาจากอนาคต เธอจะแพร่พันธุ์ที่เกาะเมอร์คิวรี่ และตัวเขาเองจะถูกกัดด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นสิ่งที่เขาต้องทำคือเปลี่ยนแปลงอดีตโดยการไปสังหารเธอ..
วันหนึ่ง เมื่อเพียวสบโอกาสอยู่กับจูนตามลำพังในร่างปกติ เพียวกลับทำใจไม่ได้ที่จะต้องฆ่าเธอ
2 เดือนต่อมา ย่านใจกลางเมือง / 2013
(Climax) จูนในร่างอสุรกายออกอาละวาดทำลายข้าวของ ทีมนักล่าตามมาสังหาร เพียวโผล่เข้ามาปกป้องจูนจากกลุ่มนักล่า + สู้กับอสุรกายในร่างจูนด้วย (จูนในร่างกลายพันธุ์จะอยู่ในสภาวะไร้ความรู้สึก) เมื่อเพียวไม่สามารถยิงจูนด้วยปืนของเขาได้ จึงวิ่งเข้าไปกอดจูนเพื่อเธอคืนร่างเป็นคนปกติ แต่ด้วยความที่จูนไม่รู้ตัวจึงกัดชายหนุ่มเข้าที่แขน ก่อนเธอจะคืนร่างเป็นคนปกติ แต่ด้วยความรักเพียวจึงพร้อมให้อภัย และบอกแซมถึงสาเหตุที่เขาปกป้องเธอ (มีกลุ่มนักล่าเฝ้ามองเหตุการณ์อยู่ตั้งแต่ต้น) เนื่องจากแซมเคยผ่านเหตุการณ์ทำนองนี้มาก่อนจึงเข้าใจและรู้สึกผิดที่ฆ่าภรรยาตัวเอง ในจังหวะนั้นเองที่เพียวฉวยโอกาสพาจูนหลบหนี ก่อนจะเดินทางไปยังหมู่บ้านในชนบทแห่งหนึ่งไกลออกไปเพื่อใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันสองคน (จบ)
ZOOM ออกมาเป็นห้องโฮมเธียเตอร์ในบริษัทภาพยนตร์แห่งหนึ่ง / 2012
ผู้กับหนัง (โดม) นั่งอยู่ที่หัวโต๊ะเพื่อคุยกับผู้อำนวยการสร้าง 3 คนหลังหนังจบ มีการเรียกร้องให้เขาเปลี่ยนตอนจบของหนังเรื่อง “The Concealedly Love of the World” ใหม่ แต่โดมบอกว่าที่จบเช่นนี้เพราะหวังผลทางธุรกิจที่จะสร้างภาคต่อ แต่ที่ประชุมส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย (อยากให้จบสนิท) โดมจึงขอเวลาไม่กี่วันเพื่อกลับไปถ่ายใหม่ (โดมบอกว่าได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องจริงที่เขาค้นพบแต่บอกใครก็ไม่มีใครเชื่อ)
เมื่อกลับมาถึงบ้าน โดมเหลือบเห็นตำราพยากรณ์เปิดทิ้งไว้บนโต๊ะ เขาหยิบขึ้นมาดูหน้าที่เปิดอยู่ มันพูดถึงเรื่องการจะมีแมลงยักษ์ปรากฏตัวขึ้นในวันนี้ เขารีบโทรไปแจ้งสื่อต่าง ๆ ให้ออกประกาศเตือนทันที แต่ไม่มีใครเชื่อเหมือนเช่นเคย ซ้ำยังโดนต่อว่าว่าโทรมาทำไมอีก จนในที่สุดเขาก็ตัดสินใจคว้าปืน (ลักษณะเหมือนในหนัง) ขับรถออกจากบ้านไปทันที
ผ่านไปหลายชั่วโมง โดมยังคงมองหาร่องรอยของแมลงยักษ์แต่ดูไม่มีวี่แวว แต่ทันใดนั้นเองขณะที่เขาขับรถผ่านสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง (ภูมิทัศน์เหมือนในหนัง) แมลงยักษ์ก็ปรากฏตัว เสียงกรี๊ดของผู้หญิงดังขึ้น โดมหยุดรถ ก่อนจะคว้าปืนพร้อมกับเปิดประตูออกไปทันที!!
THE END.
Story by Supakit Seksuwan & Mas Chitrachinda